1.ใช้พาสเวิร์ดที่ปลอดภัย
คนส่วนใหญ่มักมองผ่านเรื่องนี้ไป แม้ว่ามันจะเป็นเรื่องสำคัญในการป้องกันธุรกิจของคุณให้ปลอดภัย ดังนั้นควรตรวจสอบให้แน่ใจว่ารหัสผ่านใดๆที่คุณมี ควรประกอบด้วยอักขระมากกว่า 8 ตัว พิมพ์เล็ก พิมพ์ใหญ่ รวมถึงสัญลักษณ์
2.เปลี่ยนรหัสผ่านบ่อยๆ
และตรวจสอบให้แน่ใจว่าไม่ใช้รหัสผ่านเดียวกันบนแพลตฟอร์มต่างๆ
การตั้งค่ารหัสผ่านหลายชุดจะทำให้แฮกเกอร์เข้าถึงบัญชี และอุปกรณ์ทั้งหมดของคุณได้ยากมากขึ้น
3.คิดคำตอบที่นอกกรอบสำหรับคำถามเพื่อความปลอดภัย
สิ่งที่แฮกเกอร์ค้นหาได้ง่ายที่สุดคือการค้นหาข้อมูลว่า คุณไปโรงเรียนที่ไหน หรือแม้กระทั่งชื่อพ่อของคุณ ดังนั้นเพื่อให้แฮกเกอร์เข้าถึงได้ยากขึ้นลองคิดคำตอบที่นอกกรอบเพื่อหาคำตอบที่แปลกใหม่สำหรับคำถามเหล่านี้
4.ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณมีโปรแกรมป้องกันไวรัส โปรแกรมป้องกันมัลแวร์/สปายแวร์ที่ดีที่สุด และไฟล์วอลล์รุ่นที่ดีที่สุด
ซอฟต์แวร์นี้เป็นซอฟต์แวร์ที่ปกป้องระบบของคุณจากโปรแกรมที่อันตราย
5.ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณเลือกบริการคลาวด์ที่เหมาะสมกับธุรกิจของคุณ
เป็นสิ่งสำคัญที่ต้องแน่ใจว่าธุรกิจของคุณเลือกใช้บริการคลาวด์ที่เหมาะสมแล้ว เนื่องจากจะต้องมีการจัดเก็บข้อมูลที่ละเอียด และอีกสิ่งหนึ่งที่ต้องแน่ใจคือมีการใช้บริการคลาวด์ที่เข้ารหัสข้อมูล.....เพื่อป้องกันตัวเองอย่างเต็มที่ อย่าง Microsoft Azure อาจะเป็นตัวเลือกที่ดีในการพิจารณา
6.ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณรู้จัก Phishing Emails
หากคุณได้รับไฟล์ หรือลิงก์ไปยังเว็บไซต์ที่คุณไม่รู้จัก คุณควรตรวจสอบให้แน่ใจ และคิดก่อนที่จะคลิกถึงแม้ว่าแหล่งที่มาของลิงก์นั้นจะดูน่าเชื่อถือก็ตาม สิ่งแรกที่ควรทำคือตรวจสอบที่อยู่ของอีเมล์ของผู้ส่งโดยการนำเมาส์ไปวางเหนือลิงก์นั้น เพื่อเช็คดูว่าเป็นบุคคลเดียวกันกับที่อ้างอิงหรือไม่ ฟิชชิ่งยังสามารถมาได้ในรูปแบบของ Facebook, Twitter และแอปแชทต่างๆ
7.อัปเดทซอฟต์แวร์ทั้งหมดให้ทันสมัยอยู่เสมอ
แฮกเกอร์สามารถเข้าถึงคอมพิวเตอร์ของคุณได้จากจุดอ่อนง่ายๆ เช่น โปรแกรมที่ล้าสมัย จึงควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณอัปเดทระบบปฏิบัติการและซอฟต์แวร์ทั้งหมดในคอมพิวเตอร์ของคุณอยู่เสมอ คุณสามารถตั้งค่าให้อัปเดทอัตโนมัติได้ หรืออาจเป็นการดีกว่าหากคุณอัพเดทจาก Windows7 เป็น Windows10 เพื่อลดความเสี่ยงการถูกแฮกข้อมูล
สามารถติดต่อ NeosIT เพื่อรับคำปรึกษา โดยทีมงานผู้เชี่ยวชาญได้ผ่านทางลิงก์นี้ https://www.neosit.com/th/projects.html
