New Normal วิธีการทำงานแบบใหม่หลังช่วง COVID-19

By Wasinee Wongnawa

security, digital transformation, modern workplace

COVID-19 คือการเปลี่ยนแปลงสำคัญให้ทั่วโลกเรียนรู้โหมดการทำงานร่วมกันแบบใหม่

จากเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดอย่าง COVID-19 เป็นผลให้หลายองค์กรต้องปิดชั่วคราวและย้ายสถานที่ทำงานให้พนักงานทำงานแบบ Remote Working แทน Remote Working หมายถึง การปรับใช้เทคโนโลยีใหม่ๆและโซลูชันทางด้านไอทีเพื่อให้พนักงานในองค์กรสามารถทำงานจากข้างนอกออฟฟิศได้อย่างมีประสิทธิภาพไร้สะดุด ถึงแม้ว่าในช่วงแรกอาจจะเป็นเพียงแผนสำรองบริหารความต่อเนื่องของงานของหลายๆองค์กร แต่เมื่อสถานการณ์เริ่มดีขึ้น ก็มีหลายๆองค์กรที่ซึมซับ Remote Working เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมการทำงานไปแล้ว

 

checking-e-mails-69JYULV

 

ใน blog นี้ คุณจะได้ทราบ 3 ข้อเพื่อเตรียมพร้อมก่อนที่จะให้พนักงานเริ่มใช้งาน Remote Working

 

IT infrastructure ต้องพร้อมรองรับแผนสำรองบริหารความต่อเนื่องของงานขององค์กรคุณ

หากต้องการเริ่มต้นให้พนักงานทำงานแบบ Remote Working ฝ่ายไอทีต้องมั่นใจว่า IT infrastructure ขององค์กรนั้นรองรับการทำงานร่วมกันอย่างไม่มีสะดุด เมื่อพนักงานทำงานจากที่อื่นนอกออฟฟิศมักต้องการใช้งานอุปกรณ์ของตนเอง (BYOD) และคาดหวังว่าจะได้ใช้งานซอฟต์แวร์ที่รวดเร็วและทันสมัย ในขณะเดียวกันก็ต้องรองรับการเข้าถึงไฟล์พร้อมกันจากหลายๆ user ในเวลาเดียวกันอย่างปลอดภัยและรวดเร็วด้วย IT infrastructure ที่ไม่อัพเดทอาจส่งผลต่อกระบวนการทำงานโดยรวมของทั้งองค์กรคุณก็เป็นได้

โซลูชันที่ตอบโจทย์ปัญหานี้ได้แก่ Microsoft 365 และ Windows Virtual Desktop ซึ่งสามารถติดตั้งเสร็จภายในไม่กี่ชั่วโมง เพียงแค่นี้องค์กรของคุณก็มี IT infrastructure ที่อยู่บนคลาวด์แล้วและมีความปลอดภัยในระดับสูงอีกด้วย โดยผลลัพธ์ทั้งหมดนี้มีมาตรฐานที่รับรองแล้วและออกแบบมาเพื่อธุรกิจของคุณโดยเฉพาะ

 

ตรวจสอบให้แน่ใจว่าสภาพแวดล้อม IT ขององค์กรปลอดภัยและสอดคล้องกับกฎหมาย

เมื่อ IT infrastructure ของคุณอัพเดทพร้อมใช้งาน Remote Working เรียบร้อยแล้ว อันดับถัดไปคือคุณต้องมั่นใจว่า IT infrastructure ขององค์กรคุณปลอดภัยและเป็นไปตามกฎหมาย ทำไมจึงสำคัญ เพราะว่าเมื่อพนักงานสามารถเข้าถึงข้อมูลได้จากทั้งภายในและภายนอกองค์กร ก็เป็นความเสี่ยงที่อาจจะทำให้ข้อมูลองค์กรรั่วไหลได้ ดังนั้นองค์กรควรหาวิธีเพิ่มความปลอดภัยของการเข้าถึงข้อมูลของพนักงาน เช่น ระบบยืนยันตัวตนสองขั้นตอน เป็นต้น นอกจากนี้ต้องแน่ใจว่าเทคโนโลยีที่องค์กรคุณใช้นั้นสอดคล้องกับ พรบ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลหรือกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของสหภาพยุโรป หากเทคโนโลยีที่ใช้ไม่สอดคล้องกับกฎหมายทั้งสอง คุณอาจจะต้องพิจารณาเปลี่ยนไปใช้เทคโนโลยีอื่นที่เหมาะสม

ไมโครซอฟต์ตอบโจทย์ปัญหานี้ด้วยระบบแบบปิดซึ่งการันตีความปลอดภัยในทุกบริการผ่านทางผู้ดูแลระบบส่วนกลาง Azure, Microsoft 365 และ Virtual Desktop สามารถเชื่อมต่อเข้าหากันผ่านทาง Active Directory และสร้างรากฐานที่ปลอดภัยและทำได้อย่างรวดเร็ว

 

data-security-concept-PSC5G7N

เตรียมทีมงานให้พร้อมเพื่อรองรับการขยายตัวอย่างรวดเร็วขององค์กรในอนาคต

ในอนาคตหากองค์กรของคุณขยายตัวอย่างรวดเร็ว IT infrastructure ของคุณจะต้องพร้อมรองรับแผนการขยายตัวนี้ ตลาดกำลังเปลี่ยนแปลงองค์กรของคุณก็เช่นกัน แล้วคุณมีทีมผู้เชี่ยวชาญทั้งภายในองค์กรหรือพาร์ทเนอร์ด้านไอทีภายนอกองค์กรที่สามารถช่วยเหลือคุณดำเนินการแผนงานนี้หรือไม่

หลังจากที่ใช้งาน Remote Working ได้แล้ว สิ่งที่ตามมาคือการพัฒนาและปรับโซลูชันให้ตรงตามข้อกำหนดใหม่ๆ เพราะข้อกำหนดทั้งหมดนั้นส่วนใหญ่แล้วไม่สามารถค้นพบและเจอได้ในการวางแผนเบื้องต้นทันที และพอถึงช่วงเวลาหนึ่งองค์กรก็มักจะได้รับรู้ข้อมูลอะไรที่มากขึ้นก่อให้เกิดการเรียนรู้ใหม่ๆ

tasks-for-business-development-8V2BZGH

นีออสไอทีและไมโครซอฟต์ร่วมกันพัฒนาโซลูชันตลอดเวลา ดังนั้นจึงสามารถช่วยคุณสร้าง Workplace ขององค์กรให้มีประสิทธิภาพและปลอดภัยได้

หากคุณไม่รู้จะเริ่มต้นเส้นทางนี้อย่างไร ลองดาวน์โหลด Whitepaper ของเราเพื่ออ่านเพิ่มเติมได้

ดาวน์โหลด